จำนวนผู้เข้าชม

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

เปิดสวนทุเรียนเมื่องจันทบุรี


ทุเรียนเมื่องจันทบุรี
 สวนทุเรียนนนท์ 3 ผล หมื่น  สวนทุเรียนนนท์ 3 ผล หมื่น
“ป้า มีลูก 5 คน ทุกคนได้เรียนหนังสือ อยู่ดีกินดี เพราะทุเรียนเป็นหลัก แถมมีผลกำไรมาขยับขยายที่ดินเพิ่ม จึงอดจะแปลกใจไม่ได้ว่าเกษตรกรหลายคน เขาทำสวนส่งลูกเรียนหนังสือ กว่าลูกจะเรียนจบต้องขายสวนหมด เป็นไปได้ยังไง เพราะการทำสวนทุเรียนถ้าทำจริงจัง ให้ความรักใส่ใจ ป้าบอกได้เลยว่า ถ้าใครทำงานมีเงินเดือน 20,000-30,000 บาท เปลี่ยนมาทำสวนทุเรียนดีกว่า”
จัดทริปพาเที่ยวสวนเมืองนนท์ มาหลายต่อหลายครั้ง แต่กระนั้นยังไม่เคยพาผู้ร่วมทางไปสวนทุเรียน ผลไม้ขึ้นชื่อประจำจังหวัด
ปลายเดือนเมษายน (30 เมษายน 2554) จึงสบโอกาสดี ประจวบเหมาะกับทุเรียนนนท์หลากหลายสายพันธุ์กำลังให้ผลผลิตเป็นที่น่าชื่นชม
ฉบับ นี้จึงขอเรียกน้ำย่อย ด้วยการเกริ่นกล่าวเล่าเรื่องราวเฉพาะสวนทุเรียนเมืองนนท์ (ยังมีอีกหลายสวน หลายสถานที่ กับเส้นทางนี้) พอหอมปากหอมคอ
อนุรักษ์พันธุ์เก่า
เรื่องเล่าทุเรียนนนท์
ท่าม กลางความร่มรื่น มีต้นทุเรียนไม้หลักให้ร่มเงา ซึ่งขณะนี้ กำลังออกดอกสีขาวสะพรั่ง เรียกเหล่าแมลงผสมเกสรให้บินว่อนรอบทิศทาง เสียงนกร้องขับกับเสียงแมลงกลางวัน เราเดินผ่านคันสวนจวบจนมาหยุดยืนบริเวณเพิงพัก
บรรยากาศเช่นนี้หาได้ที่สวนทุเรียนของ ป้าไสว ทัศนียเวช…
ป้า ไสว ในวัยกว่า 70 ปี ที่ยังดูท่าทีกระปรี้กระเปร่า เชื้อเชิญให้ทีมงานเกษตรสัญจร นั่งบนเก้าอี้แผ่นกระดานไม้ทอดยาวขนานไปกับแนวพื้นดิน จากนั้นเกริ่นกล่าวเล่าถึงเส้นทางสายเกษตรกรว่า เริ่มต้นทำสวนทุเรียนมาตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยมีพ่อเป็นครูผู้ถ่ายทอดวิชา
กระทั่งอายุ 20 ปี ถึงคราวออกเรือน สมบัติพื้นที่สวนขนาด 2 ไร่ คือรางวัลที่บุพการีมอบให้สานต่อ…
จวบจนบัดนี้ พื้นที่ปลูกขยับขยายเป็น 25 ไร่ ซึ่งป้าไสว ยังคงใส่ใจทุเรียนทุกต้น ประดุจ “ลูก”
สาย พันธุ์เก่าแก่ อาทิ กบแม่เฒ่า กบตาขำ กำปั่นพวง ชมพูศรี ชะนี กระดุม ถูกอนุรักษ์ไว้ภายในสวนแห่งนี้ และที่โดดเด่นจนเลื่องลือ คือก้านยาว กับราคาขาย 2-3 ผล 10,000 บาท
“ต้นทุเรียนอายุเก่าแก่กว่า 60 ปี ยังอยู่และให้ผล แต่กระนั้นในช่วงน้ำท่วมตั้งแต่ปี 2485 เรื่อยมา ทุเรียนตายเกือบหมด เริ่มแรกพ่อหาพันธุ์มาปลูกเพิ่ม แลกกับสวนอื่นๆ บ้าง ทำให้ได้สายพันธุ์หลากหลาย ซึ่งนี่คือข้อดีของการปลูกทุเรียนแบบให้รสอร่อย เนื้อเนียน”
คุณป้าไสว ยังแย้มให้ฟังว่า สภาพพื้นดินมีผลต่อรสชาติเช่นกัน ซึ่งกับพื้นที่แห่งนี้มีดิน 3 ชั้น คือด้านล่างเป็นเลน ถัดมาเป็นดินเหนียว และชั้นบนสุดดินร่วนซุย ตรงตามความชอบของต้นไม้ชนิดนี้ แต่กระนั้น หากสภาพพื้นดินไม่เป็นใจ เจ้าของสวนผู้มากประสบการณ์ มีวิธีแก้ไข
ส่วนจะเป็นอะไรนั้น ขออุบไว้ เพื่อไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน ในช่วงปลายเดือนเมษายน…
ปลูกทุเรียนอย่าคาดหวัง
รับตังค์เดือนละหลายแสน
คุณป้าไสว ว่า ปลูกทุเรียนนนท์ต้องไม่คาดหวังกับผลผลิต แต่สิ่งควรทำ คือ ความทุ่มเท เอาใจใส่ ประดุจสมาชิกในครอบครัว
“ทุเรียน นนท์ คาดหวังไม่ได้ว่าปีนี้จะออกมากออกน้อย บางต้นบางปีไม่ออกดอกเลยก็มี ทุเรียนนนท์เป็นการปลูกเอารสชาติ ไม่ใช่ปริมาณ ฉะนั้น ผู้ปลูกต้องใส่ใจ ต้องรัก เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างมากตั้งแต่เริ่มปลูก เหมือนเราคลอดลูก ต้องประคบประหงม คอยประคอง ดูว่าต้องการอะไร อาหารตามช่วงวัย หรือช่วงไหนควรให้ไม่ควรให้
ต้องดูกันตั้งแต่สภาพพื้นดิน แหล่งน้ำ ทุเรียนชอบความชุ่มชื้น ในขณะเดียวกันก็นิยมแสงแดด และศัตรูที่ร้ายกาจคือปลวก กัดกินรากเป็นอาหาร ไม่เพียงเท่านั้นยังสร้างอุโมงค์ใต้พื้นดิน ทำให้สภาพดินแข็ง รดน้ำไม่ลง ในที่สุดทุเรียนจะตาย”
ทุกวันนี้ เวลาเข้าสวน ในมือของคุณป้าไสว จะกำชะแลงอาวุธคู่กาย คอยแคะขุดพื้นที่รอบต้นทุเรียน เพื่อหาศัตรูตัวร้ายที่เข้ามารุกราน
แม้ มีรายละเอียดให้ต้องใส่ใจ ให้ต้องแก้ไขไม่เว้นวัน แต่กระนั้น คุณป้าไสว กลับบอกว่า อาชีพการปลูกทุเรียนคือชีวิต คือความเพลิดเพลิน คือความสุข ยิ่งได้เห็นตัวเลขยอดขายในแต่ละปี ซึ่งมีจำนวนหลายแสนบาท เม็ดเหงื่อก็จางหาย เหลือไว้แต่รอยยิ้มสดใส
“ป้ามีลูก 5 คน ทุกคนได้เรียนหนังสือ อยู่ดีกินดี เพราะทุเรียนเป็นหลัก แถมมีผลกำไรมาขยับขยายที่ดินเพิ่ม จึงอดจะแปลกใจไม่ได้ว่าเกษตรกรหลายคน เขาทำสวนส่งลูกเรียนหนังสือ กว่าลูกจะเรียนจบต้องขายสวนหมด เป็นไปได้ยังไง เพราะการทำสวนทุเรียนถ้าทำจริงจัง ให้ความรักใส่ใจ ป้าบอกได้เลยว่า ถ้าใครทำงานมีเงินเดือน 20,000-30,000 บาท เปลี่ยนมาทำสวนทุเรียนดีกว่า”
ภาย ในสวนของป้าไสว ภายใต้พืชหลักอย่างทุเรียน ยังมีพืชผลอื่นปลูกแซมสร้างรายได้ระหว่างรอ “มังคุดนนทบุรี ถือว่าได้รับความนิยม ขายกิโลกรัมละ 50-100 บาท ปีๆ หนึ่งทำรายได้หลักแสนเหมือนกัน ส่วนที่ให้ผลตอบแทนไม่ขาดช่วงคือ กล้วยน้ำว้า และกล้วยตานี ซึ่งกับกล้วยตานี ปลูกไว้ให้ร่มเงา จากนั้นตัดใบขาย มีรายรับเดือนละประมาณ 9,000 บาท”
สำหรับพันธุ์ ทุเรียนได้รับความนิยม และปลูกไว้จำนวนมาก ณ สวนแห่งนี้ คือ หมอนทอง ก้านยาว และชะนี ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงติดดอกออกผล รอวันเก็บเกี่ยวปลายเดือนเมษายน
หากใครสนใจใคร่ชมกรรมวิธีปลูก ซึ่งต้องบอกว่า คุณป้าไสวมีเทคนิคทั้งใหม่และเก่ามาเล่าให้ฟัง ดังเช่นว่า การเลี้ยง “ชันโรง” ไว้ในสวน, ปลูกพืชเสริมชนิดใดไม่ทำร้ายทุเรียน, วิธีปลูกแบบต่อกิ่ง ตอนกิ่ง หรือใช้เมล็ด ดีกว่ากัน และอีกหลายเทคนิค เชื่อว่าหลายท่านไม่เคยรู้มาก่อน
ฉะนั้น ทริปเดือนเมษายนนี้ เราไปนนทบุรีกัน…

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

เที่ยวไร่สตอเบอรี่


เที่ยวไร่สตรอเบอรี่ที่เชียงใหม่

เที่ยวไร่สตรอเบอรี่ที่ ต. บ่อแก้ว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
      อำเภอสะเมิง เป็นแหล่ง ปลูกสตรอเบอรี่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และเป็นสตรอเบอรี่พันธุ์ดีและมีคุณภาพดีที่สุด ปลูกมากที่สุด ที่ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
      ผลสตรอเบอรี่ สามารถนำไปแปรรูปเป็น ไวน์สตรอเบอรี่ แยมสตรอเบอรี่ ซึ่งหากท่านไปอำเภอสะเมิงจะมีไร่สตรอเบอรี่ อยู่มากมาย สามารถเห็นสตรอเบอรี่สดจากต้น (ท่าทนเคยเห็นต้นสตรอเบอรี่มาก่อนหรือไม่?)
      ที่ อำเภอสะเมิง มีไร่สะตรอเบอรี่อยู่หลายไร่ บางไร่ ท่านสามารถไปเก็บสตรอเบอรี่ได้สดๆจากต้นเลยทีเดียว
แนะนำเลยครับ มาเที่ยวเชียงใหม่ มาชมไร่สตรอเบอรี่ที่อำเภอสะเมิง

ความหมายของดอกลิลลี่


ความหมายและลักษณะของดอกลิลลี่

Posted by  in  on 5-16-12
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่สีขาวแทนความรักที่บริสุทธิ์ใจ ขาวสะอาด อ่อนหวาน จริงใจ และนับถือ?ดอกลิลลี่สีชมพูแสดงถึงการค้นหาเสาะหาหรือตามความรักเมื่อเจอความรักจะเป็นความรักที่ดีที่สุด และความรักที่จริงใจ?ดอกลิลลี่สีส้มเปรียบเสมือนความร่าเริง สดใส ความปิติสุขที่ได้อยู่ใกล้?ดอกลิลลี่สีเหลืองที่แสดงออกถึงความอบอุ่นห่วงใยของความรักที่มั่นคง หนักแน่นไปด้วยรักที่อบอุ่น ชอบเป็นห่วง และดอกลิลลี่ เป็นดอกที่เราสามารถมอบให้คนที่เรารักได้ไม่น่าแพ้ดอกกุหลาบเลยทีเดียวเพราะ สีของดอกลิลลี่เหล่านี้มันมีคำบรรยายที่ใช้บอกแทนความในใจได้?ดอกลิลลี่มักนิยมใช้กันตามงานเลี้ยงหรืองานแต่งเพราะเป็นดอกลิลลี่ที่มีความสวยงาม
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่

วรรณคดีไทย



วรรณคดีไทย

มหาชาติคำหลวง หรือ มหาเวสสันดรชาดก
เดิมเป็นภาษามคธหนึ่งพันคาถา แปลเป็นไทยมาแต่กรุงสุโขทัย เป็นหลักของหนังสือไทยเรื่องหนึ่ง สำคัญกว่าชาดกอื่นๆ ด้วยปรากฎบารมีของพระโพธิสัตว์บริบูรณ์ทั้ง ๑๐ อย่าง ยาว ๑๓ กัณฑ์ สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โปรดให้นักปราชญ์ ราชบัณฑิตในกรุงศรีอยุธยา ร่วมกันแปลแต่งมหาชาติขึ้นโดยวิธีตั้งสลับภาษามคธบาทหนึ่ง แปลเป็นไทยวรรคหนึ่ง เป็นฉันท์บ้าง โคลงบ้าง เพื่อความไพเราะและใกล้เคียงภาษาเดิม จึงเป็นหนังสือซึ่งนับถือว่า แต่งดีมาแต่ครั้งกรุงเก่า

ลิลิตพระลอ
พระลอเป็นนิยายถิ่นไทยทางภาคเหนือ มีเค้าโครงเรื่องว่าเกิดในแคว้นลานนา แต่งเป็นคำประพันธ์ชนิดลิลิต (ใช้โคลงและร่ายคละกันไป) มีข้อความกระทัดรัด ไพเราะ รักษาข้อบังคับ ฉันทลักษณ์เคร่งครัด วรรณคดีสโมสรยกย่องให้เป็นยอดของวรรณคดีประเภทลิลิต ทั้งเนื้อเรื่อง กระบวนร้อยกรอง และภาษาที่ใช้ เป็นครูด้านแบบฉบับของลิลิตในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ต่อมา เป็นวรรณคดีบริสุทธิ์ตรงที่ว่า ได้พรรณนาความรักทุกประเภทอันมนุษย์จะพึงมีไว้

สังข์ทอง
เป็นนิทานในคัมภีร์ปัญญาสชาดกเรียก สุวัณณสังขชาดก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อทรงพระราชทานนิพนธ์บทละครเรื่องสังข์ทอง คงได้เลือกบทละครครั้งกรุงเก่ามาเป็นโครง เพราะมีกลอนเดิมหลายแห่งที่ทรงโปรด จนเอามาใช้ในพระราชนิพนธ์ ซึ่งกลอนเดิมน ี้คงจะเป็นของนับถือ และนิยมกันว่าแต่งเป็นอย่างดี ในครั้งกรุงศรีอยุธยาด้วย

กากี
มีเค้าจากเรื่องกากาติชาดกในนิบาตชาดก บทมโหรีมีเนื้อร้องเหมือนกับที่เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ (กุ้ง) นิพนธ์ขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นแบบ "กาพย์ห่อโคลง" ส่วนในฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) แต่งเป็นคำกลอนเพื่อใช้เป็นบทร้องส่งมโหรี ได้แต่งเรื่องนี้ในแผ่นดิน ที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ บทกลอนในเรื่องอันเป็นสำนวนที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นเยี่ยมในด้านการแต่งบทร้อง เนื้อความมีหลายรส สามารถชักจูงใจผู้ฟัง มีทั้งหมด ๘๐ คำกลอน แต่งไปจบเพียงตอนนางกากีถูกลอยแพ

มโนห์รา หรือ พระสุธนคำฉันท์
เป็นนิทานชาดก ในตำรามหาวัสดุของอินเดียโบราณฝ่ายมหายาน เรื่องสุธนชาดก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์พระสุธนคำฉันท์ ส่วนบทละครเรื่องมโนห์รา เห็นได้ว่าไม่เป็นกลอนแปดแท้ เช่นบทละครสามัญแต่ปนกาพย์ ทำนองกลอ นเป็นอย่างที่ละครมโนห์ราใช้กันอยู่ทางปักษ์ใต้ สันนิษฐานว่าบทละครมโนห์ราเป็นบทละครชิ้นแรกในกรุงเก่า

พระอภัยมณี
พระสุนทรโวหาร เจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายพระบวรราชวัง หรือสุนทรภู่ แต่งเป็นประเภทกลอนแปด เป็นภาษาเขียนในบทกวีที่อ่านแล้วสนุก มีคติเข้าใจง่าย ใช้คำที่เหมาะต่อเนื้อหาของเรื่อง เป็นนักกวีที่เชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์และภาษาศาสตร์ ใช้ถ้อยคำและสำนวน โวหารได้ฉับพลัน องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ประกาศยกย่องเกียรติคุณ ในฐานะบุคคลดีเด่นของโลกในสาขาวัฒนธรรม

เงาะป่า
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บทละครที่นับเป็นการริเริ่มในด้านวรรณคดีอีกแนวหนึ่ง เรื่องและฉากเหตุการณ์แปลกออกไป เป็นบทละครรูปแบบไทยโบราณ เค้าโครงเป็นโศกนาฏกรรม แสดงขนบธรรมเนียม ชีวิตการต่อสู้ การทำมาหากิน และแทรกภาษาขอ ง "เงาะ" ไว้ด้วยสำนวนกลอนไพเราะ บทพรรณนางดงาม มีคติชีวิตคมคาย

มัทนะพาธา หรือ ตำนานแห่งดอกกุหลาบ
ละครพูดคำฉันท์ ๕ องค์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นับเป็นหนังสือแต่งดีเพราะทรงพระราชดำริใช้คำฉันท์เป็นบทละครพูด ซึ่งเป็นของแปลกในกระบวนวรรณคดี และแต่งได้โดยยากในทางภาษา ทรงคิดเค้าโครงเรื่องด้ วยพระองค์เอง จึงนับว่าเป็นจินตนิยาย

สาวิตรี
พระราชนิพนธ์บทละครร้อง ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเรื่องมีในคัมภีร์มหาภารต อันเป็นมหากาพย์ภาษาสันสกฤตเรื่องหนึ่งของอินเดีย (คู่กับคัมภีร์รามายณ ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์) เป็นเรื่องแสดงถึงอำนาจแห่งความรัก และความภักดีอั นยิ่งใหญ่ที่ภริยามีต่อสามี ได้ทรงพระราชนิพนธ์โดยอาศัยฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ

สกุนตลา
เป็นเรื่องเกร็ดอันหนึ่งในมหาภารตเรียกว่า ศกุต์โลปาข์ยาณ ถูกแปลไปหลายภาษา การแปลแต่งเป็นไทยนี้ เพื่อให้เหมาะแก่การที่จะเล่นเป็นบทละครรำสำนวนหนึ่ง และบทละครร้องหรือบทละครดึกดำบรรพ์อีกสำนวนหนึ่ง โดยอาศัยฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษของเซอร์วิลเลี่ยม โ ยนส์ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ นี้ นับเป็นช่วงระยะเวลาที่ภาษาเขียนได้เจริญสูงสุด ปรากฎบทพระราชนิพนธ์ในพระองค์มากกว่า ๒๐๐ เรื่อง

กนกนคร
นิทานในหนังสือสันสกฤตชื่อ กถาสริตสาครเรื่องเมืองทอง พระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ทรงนิพนธ์เป็นนิทานคำกลอนประเภทกลอนหกล้วนๆ สร้างระเบียบบังคับกลอนแนวใหม่ ซึ่งทรงริเริ่มขึ้นทั้งด้านสำนวนโวหาร ถ้อยคำ ใช้คำง่ายๆ แต่มีข้อความไพเราะ เนื้อเรื ่องให้ความเพลิดเพลิน ให้ความรู้ศัพท์แปลก ๆ สูง ๆ ถ้อยคำที่นำมาใช้อย่างตั้งใจว่า ต้องเป็นคำที่ได้น้ำหนักกันอย่างดี มีความหมาย ทรงพระนิพนธ์จบลงโดยอาศัยฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งกล่าวว่าแปลจากสมุดสันสกฤต ชื่อ ตริวิกรมาโธคาศรีระ

กามนิต - วาสิฎฐี
เป็นนิยายอิงศาสนาพุทธทางลัทธิมหายาน ดำเนินเรื่องอาศัยพุทธประวัติ และหลักธรรม ตลอดจนเรื่องราวในพระสูตรต่างๆ เป็นโครง แทรกลัทธิศาสนาพราหมณ์และวรรณคดีอินเดีย แต่งโดยนักเขียนชาวเดนมาร์ก เสฐียรโกเศศและนาคะประทีปแปลแต่งเป็นหนังสือนวนิยาย ร้อยแก้ว มีสำนวนโวหารไพเราะ จังหวะลีลาในการประพันธ์เหมาะสมแก่เหตุการณ์ และบรรยากาศของเรื่อง

จากปฏิทินของบริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด ประจำปี ๒๕๓๓
GO BACK HOME

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

ทานตะวัน 2. เที่ยวทุ่งทานตะวันควรไปตอนเช้าจะเป็นช่วงที่สวยที่สุด เพราะทานตะวันจะชูช่อรับ พระอาทิตย์ขึ้น หงายหน้า ช่วงเที่ยง และคอตกไปกับดวงอาทิตย์ทุกวัน 3. ทุ่งทานตะวันแต่ละทุ่งมีอายุบานประมาณ 15 วัน เพราะฉะนั้น ควรสอบถามข้อมูลทุ่งทานตะวันบานที่ อบต.แสลงพันอ.วังม่วง จ.สระบุรี โทร.036 364 443 การเดินทางไปทุ่งทานตะวัน จ.สระบุรี 1. โดยรถยนต์ส่วนตัว ทุ่งทานตะวัน ( อ.แก่งคอย, อ.มวกเหล็ก, อ.วังม่วง) จากกรุงเทพ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านจังหวัดสระบุรี เข้า อ.มวกเหล็กหรือถ้าใคร ชอบทิวทัศน์ ที่ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนก็ใช้เส้นทางเลี้ยวซ้ายเข้าแก่งคอยแล้วค่อยออกไปตามทางไป เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็ได้ จาก เส้นทาง อ.มวกเหล็ก ให้ขับรถไปเรื่อย ๆ ตามป้ายบอกทางไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เส้นทางนี้จะผ่านเส้นทางที่ เป็นอุโมงก์์ต้นไม้ และเนินมหัศจรรย์ ผ่านอุโมงก์ต้นไม้และเนินมหัศจรรย์ก็จะพบกับทุ่งทานตะวัน เล็กบ้างใหญ่บ้าง ขับรถกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ จะเจอป้ายบอกทางไปทุ่งทานตะวัน อ.วังม่วง และหลังจากเที่ยวทุ่งดอกไม้งามแล้ว ย้อนกลับ ็ทางเดิม สามารถไปเที่ยวชมเขื่อนป่าสัก ฯ ได้อีก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทุ่งทานตะวันมากนัก หลังจากเที่ยว ทุ่งทานตะวันแล้วก็กลับมาทางมวกเหล็กแวะเที่ยวชมไร่องุ่นได้อีกด้วย ทุ่งทานตะวันเส้นสระบุรี ถึง ลพบุรี จาก กรุงเทพ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านจังหวัดสระบุรี จนถึงแยกพุแค เลี้ยวซ้ายตามทางหลวง หมายเลข 21 (ทางไปเพชรบูรณ์) ไปจนถึงสี่แยกพัฒนานิคม ซึ่งจะตัดกับทางหลวงหมายเลข 3017 ลพบุรี - วังม่วง เส้นทางสายนี้ตลอดสองข้างทางจะเหลืออร่ามไปด้วยทุ่งทานตะวัน และยังรวมถึงบริเวณวัดเขาจีนแล อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก และเส้นทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ แผนที่ทุ่งทานตะวัน จ.สระบุรี


เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ของทุกปี ฤดูกาลท่องเที่ยว ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี  ริมฝั่งถนนจะสะพรั่งไปด้วยสีเหลืองของดอกทานตะวัน เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้ผ่านมาบริเวณนี้เป็น อย่างมากจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด และในทุกปีจังหวัดสระบุรี จะจัด เทศกาลทุ่งทาน ตะวันบาน ในทุกปี สลับหมุนเวียนไปในแต่ละอำเภอ / พื้นที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชื่นชม และถ่ายภาพ เป็นที่ระลึก ตลอดจนการ ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปลูกดอกทานตะวัน การนำเอาผลผลิตจาก เมล็ดทานตะวันไป ใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภครวมทั้งการเลือกซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เมล็ดทานตะวันคั่วสด ๆ จากไร่ หรือหาซื้อน้ำผึ้งทานตะวันเป็นของฝากจังหวัดสระบุรีมีพื้นที่ปลูกทานตะวันนับหลายหมื่นไร่ บริเวณเขตติดต่อ ระหว่างจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ตามเส้นทางสายพัฒนานิคม-วังม่วง มีการทำไร่ทานตะวันกันมาก รวมทั้งในอีก หลายอำเภอของสระบุรี เช่น อำเภอพระพุทธบาทแก่งคอย หนองโดน หนองแคและมวกเหล็ก แต่ที่อำเภอ วังม่วงจะมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด
ทุ่งทานตะวัน  สระบุรี
นักท่องเที่ยวสามารถ วางแผนการเดินทางมาท่องเที่ยว ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี ได้ตลอดเวลาเลือกชมได้ ในหลายๆ พื้นที่ โดยแต่ละแห่ง แต่ละ พื้นที่จะมีความสวยงามและกิจกรรมการจัดงานแตกต่างออกไป นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการขับรถชมทุ่งทานตะวันท่ามกลางบรรยากาศเนินเขา ทุ่งหญ้า ฟาร์มม้า โคนม และ ไร่องุ่น สามารถเลือกชมและท่องเที่ยวทุ่งทานตะวันได้ในพื้นท ี่อำเภอวังม่วง และมวกเหล็ก บรรยากาศการ ท่องเที่ยว ของสองอำเภอนี้เหมาะสำหรับท่องเที่ยวแบบครอบครัว ขับรถชมทิวทัศน์ ชมธรรมชาติ ท่ามกลาง สาย ลมหนาว ที่พัดผ่านที่ราบเชิงเขา ชมทุ่งทานตะวันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พักผ่อนรีสอร์ตกับครอบครัวอย่างมีความสุข ทานตะวันจะบานสะพรั่งสวยงามในสองอำเภอนี้มากที่สุด ในช่วง ระหว่าง เดือนธันวาคมและมกราคม ในช่วง เวลาอื่นๆ จะมีบานสะพรั่งเป็นพื้นที่ๆ
ทุ่งทานตะวัน  สระบุรีทุ่งทานตะวัน  สระบุรี
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ของทุกปี ฤดูกาลท่องเที่ยว ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี  ริมฝั่งถนนจะสะพรั่งไปด้วยสีเหลืองของดอกทานตะวัน เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้ผ่านมาบริเวณนี้เป็น อย่างมากจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด และในทุกปีจังหวัดสระบุรีจะ จัด เทศกาลทุ่งทานตะวันบาน ในทุกปี สลับหมุนเวียนไปในแต่ละอำเภอ / พื้นที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไป ชื่นชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ตลอดจนการ ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปลูกดอกทานตะวัน การนำเอาผลผลิตจาก เมล็ดทานตะวันไปใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภครวมทั้งการเลือกซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เมล็ดทานตะวัน คั่วสด ๆ จากไร่ หรือหาซื้อน้ำผึ้งทานตะวันเป็นของฝากจังหวัดสระบุรีมีพื้นที่ปลูกทานตะวันนับหลายหมื่นไร่ บริเวณ เขตติดต่อระหว่างจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ตามเส้นทางสายพัฒนานิคม-วังม่วง มีการทำไร่ทานตะวันกันมาก รวมทั้งในอีกหลายอำเภอของสระบุรี เช่น อำเภอพระพุทธบาทแก่งคอย หนองโดน หนองแคและมวกเหล็ก แต่ที่อำเภอวังม่วงจะมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการชมทุ่งทานตะวันในหุบเขาแบบแรลลี่ครอบครัว จะพบกับความงดงามของ ทุ่งทานตะวันเต็มหุบเขา ที่ตำบลหินซ้อน และตำบล ท่าคล้อ ของอำเภอแก่งคอย ทานตะวันจะบานสะพรั่งใน ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมมากที่สุด เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบแรลลี่ชมทุ่งทานตะวัน ในพื้นที่อำเภอ แก่งคอยนี้ทุ่งทานตะวันจะบานสะพรั่งมากที่สุดกว่า 20,000 ไร่ ในหลายตำบล นักท่องเที่ยวที่ต้องการ นั่งรถไฟ ผ่านทุ่งทานตะวันต้องนั่งรถไฟ สายกรุงเทพฯ-หนองคาย เมื่อเดินทางเข้าพื้นที่ตำบบลท่าคล้อ หินซ้อน ของอำเภอแก่งคอยตลอดแนวสองข้างทางรถไฟ จะพบกับทุงทานตะวัน เหลืองอร่ามท่ามกลางสายลมหนาวพัด เย็นสบาย หากจะนั่งรถไฟผ่าน ทุ่งทานตะวัน ขอแนะนำให้นั่งรถช่วงระหว่างกลางเดือนธันวาคม ถึงปลายเดือน จะไม่ผิดหวัง
พื้นที่จังหวัดสระบุรีที่มีการปลูกทุ่งทานตะวัน
- ต.เขาดินพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ
- ต.นายาว อ.พระพุทธบาท
- ต.หินซ้อน อ.แก่งคอย
- ต.แสลงพัน อ.วังม่วง
- ต.บ้านกล้วย อ.หนองโดน
- ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก
สามารถดูตารางการเที่ยวชมทุ่งทานตะวันตามสถานที่ต่าง ๆในแต่ละปี ได้ที่เว็บไซต์จังหวัดสระบุรี
นอกจากการเที่ยวชมทุ่งทานตะวันแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปนมัสการพระพุทธบาท พระพุทธฉาย การเที่ยวชมถ้ำหรือน้ำตก การเยี่ยมชมไร่องุ่น และการจิบไวน์ ลิ้มลองสเต็กเนื้อนุ่ม เป็นต้น;ตาเส้นทาง ดังนี้ เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ - สระบุรี - ไหว้พระพุทธรูปทองคำ ณ วัดพะเยาว์ - ทุ่งทานตะวัน ( อ.เฉลิมพระเกียรติ ,
อ. พระพุทธบาท ) - นมัสการรอยพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทฯ - ฟาร์มผึ้ง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี – แวะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ - สระบุรี - ทุ่งทานตะวัน ( อ.แก่งคอย, อ.มวกเหล็ก, อ.วังม่วง ) - ไร่องุ่น - อุโมงค์ต้นไม้ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ - ฟาร์มผึ้ง
ทุ่งทานตะวัน  สระบุรีทุ่งทานตะวัน  สระบุรี
อีกเส้นทางหนึ่งที่นิยมคือ เส้นทางรถไฟ โดยจะมีรถไฟออกเดินทางจาก สถานีรถไฟหัวลำโพงทุกวัน ซึ่งสามารถ
สอบถามข้อมูลจากการรถไฟแห่งประเทศไทยโดยการโทร 1690 โดยขบวนรถไฟจะวิ่งผ่านอ่างเก็บน้ำของ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์บางขบวนจะจอดที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพื่อให้ผู้โดยสารได้แวะถ่ายภาพอีกด้วย สามารถเข้าไป ดูรายละเอียดได้ที่http://www.railway.co.th
ทุ่งทานตะวัน  สระบุรีทุ่งทานตะวัน  สระบุรี
การเตรียมตัวเที่ยวทุ่งทานตะวันให้สนุก 
1. เตรียมกล้องถ่ายรูปไปถ่ายรูปสวย ๆ กับดอกทานตะวัน
2. เที่ยวทุ่งทานตะวันควรไปตอนเช้าจะเป็นช่วงที่สวยที่สุด เพราะทานตะวันจะชูช่อรับ พระอาทิตย์ขึ้น หงายหน้า ช่วงเที่ยง และคอตกไปกับดวงอาทิตย์ทุกวัน 3. ทุ่งทานตะวันแต่ละทุ่งมีอายุบานประมาณ 15 วัน เพราะฉะนั้น ควรสอบถามข้อมูลทุ่งทานตะวันบานที่ อบต.แสลงพันอ.วังม่วง จ.สระบุรี โทร.036 364 443
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว 
ทุ่งทานตะวัน ( อ.แก่งคอย, อ.มวกเหล็ก, อ.วังม่วง)
จากกรุงเทพ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านจังหวัดสระบุรี เข้า อ.มวกเหล็กหรือถ้าใคร ชอบทิวทัศน์ ที่ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนก็ใช้เส้นทางเลี้ยวซ้ายเข้าแก่งคอยแล้วค่อยออกไปตามทางไป เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็ได้ จาก เส้นทาง อ.มวกเหล็ก ให้ขับรถไปเรื่อย ๆ ตามป้ายบอกทางไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เส้นทางนี้จะผ่านเส้นทางที่ เป็นอุโมงก์์ต้นไม้ และเนินมหัศจรรย์ ผ่านอุโมงก์ต้นไม้และเนินมหัศจรรย์ก็จะพบกับทุ่งทานตะวัน เล็กบ้างใหญ่บ้าง ขับรถกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ จะเจอป้ายบอกทางไปทุ่งทานตะวัน อ.วังม่วง และหลังจากเที่ยวทุ่งดอกไม้งามแล้ว ย้อนกลับ ็ทางเดิม สามารถไปเที่ยวชมเขื่อนป่าสัก ฯ ได้อีก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทุ่งทานตะวันมากนัก หลังจากเที่ยว ทุ่งทานตะวันแล้วก็กลับมาทางมวกเหล็กแวะเที่ยวชมไร่องุ่นได้อีกด้วย
ทุ่งทานตะวันเส้นสระบุรี ถึง ลพบุรี
จาก กรุงเทพ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านจังหวัดสระบุรี จนถึงแยกพุแค เลี้ยวซ้ายตามทางหลวง หมายเลข 21 (ทางไปเพชรบูรณ์) ไปจนถึงสี่แยกพัฒนานิคม ซึ่งจะตัดกับทางหลวงหมายเลข 3017 ลพบุรี - วังม่วง เส้นทางสายนี้ตลอดสองข้างทางจะเหลืออร่ามไปด้วยทุ่งทานตะวัน และยังรวมถึงบริเวณวัดเขาจีนแล อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก และเส้นทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ
แผนที่ทุ่งทานตะวัน