จำนวนผู้เข้าชม

วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

จิตกรรมฝาผนังไทย


 ภาพจิตรกรรมฝาผนัง..
05 ตุลาคม 2011, 10:21
     
ผมอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะแล้วไม่เชื่อเลยนะครับว่า มนุษย์เรากับศิลปะเกี่ยวข้องกันมาตั้งแต่ยุดหินเก่า.. 
เห็นได้จาก "ภาพจิตรกรรมฝาผนัง" หรือภาพเขียนฝาผนังถ้ำต่างๆเช่น ภาพเขียนที่ถ้ำลาสโคซ์ (lascaux cave) สเปน.. 
หรือภาพเขียนฝาผนังถ้ำอัลตามิรา (altamira cave) ฝรั่งเศส ซึ่งภาพเขียนฝาผนังถ้ำเหล่านี้มักจะเป็นภาพสัตว์ชนิดต่างๆ.. 

ImageImage 
*Cave painting of Lascaux.. 


ImageImage 
*Cave painting of altamira.. 

จากนั้นก็ไล่เรียงมาถึงยุคอียิปต์ (Egypt) ที่มักเขียนภาพไว้ตามสุสานหลุมฝั่งศพ.. 
ซึ่งภาพเขียนอียิปต์มักจะเกี่ยวข้องกับวิญญาณและความตายเป็นส่วนใหญ่.. 
ยุคกรีก (Greek) จะถ่ายทอดรูปร่างของเทพเจ้าออกมาเป็นรูปร่างมนุษย์ที่มีร่างกายสมบูรณ์ได้สัดส่วน.. 
ในยุดกรีกจะพบภาพเขียนได้ตามเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ.. 
ยุคโรมัน (Roman) ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากกรีก แต่โรมันมักแสดงออกในเรื่องการสู้รบและศึกสงคราม.. 

ImageImageImage 


ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังไทยดูเหมือนจะไม่แน่ชัดว่าเริ่มต้นในสมัยใด.. 
แต่ปรากฏอยู่ในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่หนึ่งว่า "..เบื้องตีนนอนเมืองสุโขทัยนี้มีพระอจนะ มีปราสาท".. 
จึงสันนิษฐานว่า "วัดศรีชุม" สร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแห่ง ซึ่งพระประธานในมณฑปมีชื่อว่า "พระอจนะ" 

พระมณฑปวัดศรีชมผนังด้านซ้ายเจาะเป็นบันไดทางขึ้นไปบนหลังคา และตามฝาผนังอุโมงทางขึ้นนี้.. 
จะมีภาพเขียนเก่าแก่อายุ 700 ปีแต่เลอะเลือนไปเกือบหมด เพดานผนังมีแผ่นหินชนวนสลักภาพลายเส้น.. 
เป็นเรื่องในชาดกต่างๆจำนวน 50 ภาพ เรียงประดับต่อเนื่องกันและทั้งหมดนี้ถือได้ว่าเป็นงาน "จิตรกรรมไทย" ที่เก่าแก่ที่สุด.. 
ตามข้อมูลบอกว่าที่วัดอุโมงค์จังหวัดเชียงใหม่ ภายในอุโมงค์ของวัดจะมีภาพเขียนศิลปะล้านนาอายุ 500 ปีเช่นกันครับ.. 

นอกจากนั้นเราคงเคยได้พบเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังไทยตามพระอุโบสถและพระวิหารตามวัดวาอารามต่างๆมากมาย.. 

Image 
*จิตกรรมฝาผนังอุโบสถวัดประดู่ทรงธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา..ขอบคุณภาพนี้จากพี่เดชด้วยครับ.. 

..จิตรกรรมไทย หมายถึง ภาพเขียนที่มีลักษณะเป็นแบบอย่างของไทย ที่แตกต่าง จากศิลปะของชนชาติอื่นอย่างชัดเจน.. 
ถึงแม้จะมีอิทธิพลศิลปะของชาติอื่นอยู่บ้าง แต่ก็สามารถ ดัดแปลง คลี่คลาย ตัดทอน หรือเพิ่มเติมจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ.. 
ตนเองได้อย่างสวยงาม ลงตัว น่าภาคภูมิใจและมีวิวัฒนาการทางด้านรูปแบบ และวิธีการมาตลอดจนถึงปัจจุบัน.. 
ซึ่งสามารถพัฒนาต่อไปอีกในอนาคต จิตรกรรมไทยเป็นลักษณะอุดมคติ เป็นภาพ 2 มิติ.. 
โดยนำสิ่งใกล้ไว้ตอนล่างของภาพ สิ่งไกลไว้ตอนบนของภาพ ใช้สีแบบเอกรงค์ คือ ใช้หลายสี แต่มีสีที่โดดเด่นเพียงสีเดียว.. 
*คำจำกัดความจาก www.th.wikipedia.org/wiki/จิตรกรรมไทย 


อ่านตรงนี้น่าภูมิใจครับ "...ภาพเขียนที่มีลักษณะเป็นแบบอย่างของไทย ที่แตกต่างจากศิลปะของชนชาติอื่นอย่างชัดเจน.."... 
แต่ทุกวันนี้คำว่า "โลกไร้พรมแดน" ทำให้ศิลปะวัฒนธรรมต่างๆผสมกลมกลื่นกัน ฤาว่า..จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหรือไรก็ไม่รู้ครับ.. 
เช่นจิตรกรรมฝาผนังที่วัดสำปะซิว จังหวัดสุพรรณบุรีได้นำเอาตัวการ์ตูนญี่ปุ่นโดเรมอนและโนบิตะมาสอดแทรกคติเตือนใจไว้ด้วย.. 
ส่วนที่วัดร่องขุ่นจังหวัดเชียงราย วัดที่อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ทุ่มเทสร้างกับมือก็ฮือฮาไม่แพ้กันครับ.. 
โดยนำเอาตัวละครดังจากฮอลลีวู๊ดไม่ว่าจะเป็น ทรานฟอร์เมอร์ , แบตแมน , สตาร์วอร์ , เมทริกซ์ และเหตุการณ์ 911.. 
มาผสมผสานและสอดแทรกเป็นคติธรรมไว้ด้วย ส่วนที่วัดบวรฯก็มีจิตกรรมฝาผนังเรื่องสามก๊กอันนี้น่าสนใจมากๆครับ.. 


ImageImageImage 
*ขอบคุณรูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต.. 


แต่ในอีกด้านหนึ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเจอะเจอแบบนี้ด้วยก็คือภาพวาดอิโรติก เมื่อนึกถึงขนบธรรมเนียมประเพณีไทย.. 
ที่ให้ละอายกับเรื่องพวกนี้แล้ว ผมยิ่งไม่อยากเชื่อว่าภาพวาดอิโรติก (ศิลปะเชิงสังวาส) จะปรากฎบนฝาผนังโบสถ์วิหาร.. 
ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบศาสนาศาสนกิจของพระสงฆ์ แต่ในอีกด้านหนึ่งผมคิดว่าในสมัยโบราณนั้นโบสถ์วิหารอาจเป็นที่ที่เหล่าศิลปิน.. 
ได้แสดงผลงานขีดๆเขียนๆ นอกจากเรื่องราวพุทธประวัตินิทานชาดกเรื่องรามเกียรติ์ ฯลฯ.. 
ศิลปินยังได้เขียนภาพวิถีชีวิตของผู้คนในยุคนั้นปะปนสอดแทรกรวมๆอยู่ในนั้นด้วย.. 
ก็นับว่าศิลปินยุคนั้นก็มีความเข้าใจความเป็นศิลปะหลังฉากมืดเช่นเดียวกับยุคนี้เน๊าะ.. 
ดาราคนไหนแก้ผ้าแจกนมถ่ายนู๊ดถ่ายปฏิทินก็มักอ้างว่าเป็นงานศิลปะ เป็นอลบั้มสวยๆที่ครั้งหนึ่งของชีวิตอยากมีกะเค้าบ้างล่ะ.. 

Image 
*ศิลปะเชิงสังวาส วัดคงคาราม ราชบุรี.. 


รูปนี้เป็นศิลปะเชิงสังวาส ที่วัดภูมินทร์ น่าน..ผมเคยเขียนไว้ว่าเจอร์รี่ ซัคเกอร์ (Jerry Zuckerz) ผู้กำกับภาพยนต์เรื่อง.. 
วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก (Ghost) คงเคยเห็นรูปนี้มาก่อนก็เลยเอาไอเดียไปกำกับฉากรักในหนังเรื่อง Ghost กระมั้ง.. 
ฉากที่มอลลี่กำลังปั้นเครื่องปั้นที่แท่นหมุนและแซมได้เข้ามาโอบกอดเธอด้านหลังร่ายลีลารักหวานซึ้งสุดโรแมนติก.. 
ซึ่งผมถือว่าเป็นฉากเลิฟซีนที่สุดแสนคลาสสิกที่สุดก็ว่าได้.. 

Image 


สำหรับผมจำความได้ว่า..ผมเริ่มสนใจบันทึกภาพ "จิตรกรรมและภาพเขียน" ต่างๆตอนที่โดนเพื่อนหลอกไปน่าน.. 
และได้บันทึกภาพจิตรกรรมและภาพเขียนที่วัดภูมินทร์ เป็นครั้งแรกหลังจากนั้นก็เริ่มชอบแนวๆนี้มาตลอดครับ.. 
ถ้าผมได้ไปวัดต่างๆที่มีภาพเขียนอยู่..ผมก็จะไม่ลืมต้องบันทึกภาพกลับมาด้วย.. 
ลองรื้อๆดูที่นี่ได้นะครับ รวมจิตรกรรมฝาผนังที่ผมได้บันทึกภาพมา.... 

Image 
*ภาพปู่ม่าน-ย่าม่าน กระซิบรักบันลือโลก จิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ 

การบันทึกภาพ "ภาพเขียน" ของผมไม่มีอะไรยุ่งยากเพราะผมมักจะบันทึกภาพด้วยแสงธรรมชาติผสมแสงไฟภาพในอุโบสถนั้นๆ.. 
บางวัดมีแสงรวมกันมากพอและไม่จำเป็นต้องดัน ISO สูงๆ แต่บางวัดก็จำเป็นที่ต้องบันทึกภาพด้วยขาตั้งกล้องเพราะแสงน้อยมาก.. 
คิดแล้วถ้าเป็นพวกโบสถ์มหาอุตตม์และทางวัดไม่ได้เปิดไฟภายในโบสถ์ไว้ก็คงจะทำอะไรลำบากขึ้นอีกหน่อย.. 
แต่ก็ไม่หนักใจเท่ากับบางวัดมีการล๊อกกุญแจโบสถ์ไว้ตลอดเวลา..ด้วยเหตุผลกันคนมาขโมยพระในโบสถ์..คิดแล้วมันเศร้าจริงๆนะ.. 


Image Image Image 
*ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากพี่มอห์มด้วยครับ.. 


จะพูดไปแล้วการบันทึกภาพเขียนที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของผม คงหนีไม่พ้น "ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ถ้ำอชันตา".. 
พี่เดชเล่าให้ฟังว่าภายในถ้ำอชันตามืดมากให้ผมเตรียมไฟฉายไปด้วย ซึ่งการบันทึกภาพภายในถ้ำนั้น.. 
กล้องที่มี ISO ต่ำๆหมดสิทธิ์ครับ ก่อนไปผมกังวลมากเอากล้องมาฝึกถือถ่ายด้วยสปีดต่ำ 1/20s , 1/25s บ้าง.. 
เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตินำขาตั้งกล้องเข้าไปในถ้ำเด็ดขาด.. 

ผมพยายามดัดแปลงอุปกรณ์ช่วยค้ำกล้องเผื่อจะได้ผ่อนแรงลงได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้.. 
เพราะโดนเจ้าหน้าที่จับตาอยู่ตลอดเวลา และอีกทั้งมีการจำกัดเวลาการเข้าชมภายใน "ถ้ำอชันตา" แต่ละถ้ำแค่ 15 นาทีเองครับ.. 
แต่! ครับแต่..ก่อนไปอินเดียพี่มอห์มแนะนำให้หาปากกาลูกลื่นกับยาหม่องตราลิงไปด้วย คนอินเดียเค้าชอบโดยเฉพาะยาหม่องตราลิง.. 
ทำไมต้องหม่องตราลิง..ก็เขานับถือหนุมานฮะ ผมเองเตรียมไปไม่มากก็เลยใช้ใบเบิกทางที่มีรูป มหาตมา คานธี ก็ใช้ได้ดีเหมือนๆกัน..


Image 
*ภาพนางยโสธราพิมพาและพระราหุลกำลังทรงใส่บาตรพระพุทธองค์ อยู่ในถ้ำที่ 17 และเป็นภาพที่มีความสมบูรณ์ที่สุดภาพหนึ่งครับ.. 


เล่าถึงภาพเขียนที่ถ่ายยากที่สุดในชีวิตที่อินเดีย ก็เลยนึกขึ้นได้ว่ายังมีภาพเขียนที่ถ่ายย๊ากยากที่พม่าอีกที่หนึ่ง.. 
เป็นภาพเขียนภายในเจดีย์พญาตองซู (เจดีย์สามองค์) ที่ว่าย๊ากยาก..ใช่ว่าภายในเจดีย์มันมืดไม่มีแสง.. 
ที่ว่าย๊ากยากเพราะเราไม่รู้อิโน่อิเน่ตะหาก เข้าเมืองตาหลิ่วไม่ยอมหลิ่วตาให้เขาก็เป็นเช่นนี้แล.. 


Image Image Image 
*จิตรกรรมฝาผนังบากัน (Bagan Myanmar) ประเทศพม่า..ถ่ายที่เจดีย์พญาตองซูหรือเจดีย์สามองค์.. 


ผมกลับเพื่อนๆร่วมทริปลงจากรถได้ก็รีบแจ้นเข้าไปถ่ายภาพภายในเจดีย์พญาตองซูทันที.. 
เมื่อเข้าไปด้านในก็พบภาพเขียนฝาผนังที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ ผมกางขาตั้งกล้องยังไม่ทันครบ 3 ขา.. 
เจ้าหน้าที่ก็ตะโกนโหวกเหวกโวยวายโบกไม้โบกมือห้ามถ่ายๆ ผมรีบเก็บขาตั้งกล้องทันทีได้แต่ยืนมองอย่างเดียว.. 
เมื่อถ่ายภาพไม่ได้เพื่อนร่วมทริปก็ถอยแต่ผมยังอาลัยอาวอนยืนอยู่ตรงนั้น.. 
เจ้าหน้าที่คนเดิมสะกิดแล้วแย่งกล้องจากมือผมไปถ่ายภาพเขียนสองสามซ๊อต (เบลอจนดูไม่ออก)..แล้วก็แบมือขอเงิน.. 
ผมควักแบงค์ละร้อยให้หม่องแกไปสองใบเพื่องแลกกับต้องให้ผมถ่ายภาพเอง..เออ! หม่องตกลงผมเลยรีบตั้งขา.. 
ผมพึ่งจะจัดคอมโพสเสร็จยังไม่ทันจะกดซัตเตอร์ หม่องคนเดิมก็ส่งเสียงจากประตูว่าเก็บๆๆๆ..เจ้านายมาๆ.. 
มันน่าเซ็งจริงๆเป็นอย่างนี้อยู่ 2-3 รอบ..ผมถ่ายๆมาได้ 2-3 ภาพก็เลยเลิก สุดท้ายขอเงินเพิ่มแต่ผมไม่ให้.. 


Image 
*ภาพเขียนส่วนใหญ่เขียนบนผนังปูนแต่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปางเขียนบนฝาไม้.. 


ภาพเขียนที่พอจะบันทึกมาได้ส่วนใหญ่จะเป็นภาพเขียนที่ไม่อยู่สูงมากเกินไป.. 
เพราะถ้าอยู่สูงและต้องแหงนกล้องขึ้นไปสัดส่วนภาพก็จะผิดเพี้ยนมาก.. 
ผมก็เลยเลี่ยงและขอบันทึกภาพเหล่านั้นด้วยความทรงจำขอตัวเองที่มีเมมโมรี่อยู่เพียงน้อยนิดแทนครับ.. 

พอวันก่อนผมต้องต๊กกะใจเมื่อได้เห็นเบื้องหลังการบันทึกภาพเขียนของพี่เดชเข้า..มันไฮเทคสุดล้ำ..!! 
ด้วยการตั้งกล้องบนขาตั้งพิเศษที่สูงลิว สั่งการซัตเตอร์ด้วยรีโมทแล้วส่งภาพผ่านสัญญาณ WI-FI มาที่ iPAD..(อุแม่เจ้าเอาล่ะซิ!) 

Image 
*พี่เดชใช้การ์ด Eye-Fi ในการส่งข้อมูลภาพมาแสดงที่ iPad ครับ (ขอบคุณภาพนี้จากนู๋จ้อย mdphoto นะครับ..) 

เห็นแล้วก็นับว่าเป็นการใช้เทคโนโลยี่ที่เข้าท่าเข้าที..ไม่ได้ดูว่าเป็นเรื่องเวอร์เสียอย่างไร.. 
นี่ถ้าใจไม่รักจริงๆผมคิดว่าพี่เดชคงไม่ลงทุนและแบกอุปกรณ์เยอะแยะเพื่อไปถ่ายภาพเขียนแทนที่จะเป็นพริตตี้สาวๆหน่ะครับ.. 
ผมก็ต้องขอแสดงความนับถือไว้ ณ. ที่นี่ด้วย เอาไว้ผมขอสะสมความรักความชอบให้มากกว่านี้อีกหน่อย.. 
แล้วค่อยจะลงทุนลงแรงบันทึกภาพเหล่านี้ด้วยความพิถีพิถันเพื่อเน้นคุณภาพของภาพมากที่สุดแบบนี้แหละครับ.. 


ท้ายตรงนี้ผมมีลิงค์หนังสือเกี่ยวกับจิตรกรรมฝาผนังมาฝากเพื่อนๆที่สนใจด้วยครับ.. 
ทั้งหมดเป็นหนังสือแนะนำจากพี่เดชล้วนๆ..ผมก็ต้องขอขอบพระคุณไว้ที่นี่ด้วย..ขอบคุณครับ.. 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น